tag:blogger.com,1999:blog-87780546859067038452024-03-21T06:11:00.009-07:00รวมตัวอย่างแนวข้อสอบ กพ.ภาคก ความรู้ความสามารถทั่วไป ข้อสอบตำรวจ ข้อสอบครูผู้ช่วยและอื่นๆรวมแนวข้อสอบ คู่มือเตรียมสอบ ภาค ก กพ ความรู้ความสามารถทั่วไป ข้อสอบตำรวจ แนวข้อสอบครูผู้ช่วย ข้อสอบบรรจุ เฉลยแนวข้อสอบ แนวข้อสอบคอมพิวเตอร์ แนวข้อสอบคณิตศาสตร์ แนวข้อสอบ มสธ รามคำแหง ภาษาไทย แนวข้อสอบ อบต. ข้อสอบกฏหมาย คู่มือเตรียมสอบ ข้อสอบ ป.1 2 3 ม.1 gat patUnknownnoreply@blogger.comBlogger17125tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-47969545293940813402011-04-06T02:38:00.000-07:002011-04-06T02:38:15.849-07:00เทคนิคการคิดแนวข้อสอบความรู้ความสามารถทั่วไปเงื่อนไขทางภาษาเทคนิคการคิดแนวข้อสอบความรูความสามารถทั่วไปเงื่อนไขทางภาษา<br />
หลายคนเห็นข้อสอบแบบนี้แล้วก็บอกว่าโอ ไม่ ไม่อยากทำเลยแต่ก็ต้องทำ ผมเองก็เช่นกัน เลยหาเทคนิคการคิดมาให้นะครับเผื่ออย่างน้อยๆ ก็ช่วยได้บ้างครับ<br />
<br />
<span style="color: #990000;">ข้อสอบประเภทนี้ควรทำหลังสุดเพราะมักจะให้โจทย์ที่ให้คำตอบเลือกที่ วก วนไปมาทำให้งงได้<br />
<br />
<strong>หลักการคิด</strong></span><span style="color: #0000cc;"> <br />
1. ถ้าเงื่อนไขกล่าวไว้เช่นไร เมื่อพิจารณาข้อสรุปแล้วถ้าข้อสรุปตรงกับเงื่อนไขที่ให้มา ก็ตอบว่าจริงหรือถูกต้องตามเงื่อนไข<br />
<br />
2. ถ้าข้อสรุปเมื่อพิจารณาแล้วไม่ตรงับเงื่อนไขที่ให้ไว้ให้ตอบว่าผิด หรือไม่ตรงกับเงื่อน</span><br />
<br />
<span style="color: #0000cc;"><span style="color: black;">เทคนิคการคิดแนวข้อสอบความรูความสามารถทั่วไปเงื่อนไขทางภาษา</span></span> <br />
<br />
ไขที่ให้ไว้ <br />
<br />
3. ถ้าพิจารณาข้อสรุปแล้วเงื่อนไขไม่ได้กล่าวว่าไว้ คือเป็นเรื่องที่เหนือจากข้อ 1 และก็ให้<br />
ตอบว่าไม่แน่ชัด กล่าวคือไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นจริงหรือไม่จริง ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-81084660764347810372011-04-06T02:12:00.000-07:002011-04-06T02:12:15.437-07:00แนวข้อสอบความรู้ความสามารถทั่วไป คณิตศาสตร์อนุกรม พร้อมเฉลย<span style="color: black; font-size: large;"><strong>แนวข้อสอบความรู้ความสามารถทั่วไป ชุดอนุกรม</strong></span><br />
<br />
<span style="color: #000033;">1) อนุกรมตัวเลขชุดเดียวกันที่เกิดจาก<strong>การบวก</strong> และตัวเลขบวกเป็นเลข<strong>คงที่</strong></span> <span style="color: #0000cc;"> เช่น โจทย์ <span style="color: #990000;">4 9 14 19</span>...โดยตัวเลขบวกคือ 5 ตลอด ซึ่งตัวต่อไปคือเลข 25<br />
<br />
<span style="color: #000033;">2) เกิดจาก<strong>การบวก</strong> และตัวบวกเป็นค่าที่เพิ่มขึ้นแบบเป็น<strong>สัดส่วน</strong>กัน</span><br />
<br />
เช่น โจทย์ <span style="color: #990000;">20 23 28 35 44</span>...โดยตัวบวกเป็น 3,5,7,9 และ 11 เป็น 55</span><span style="color: #0000cc;"><br />
<br />
<span style="color: #000033;">3) เกิดจา<strong>การลบ</strong> และตัวลบเป็นเลขสัดส่วนกัน</span></span><br />
<span style="color: #0000cc;"> เช่น โจทย์ <span style="color: #990000;">45 40 33 24 13</span>... โดยตัวเลขที่ลบคือ 5,7,9,11 และ 13 เป็น 0<br />
<br />
<span style="color: #000033;">4) เกิดจาก<strong>การคูณ</strong> และตัวคูณเป็นตัวคงที่ เช่นคูณด้วย 3 ตลอด</span></span><br />
<span style="color: #0000cc;"> เช่น โจทย์ <span style="color: #990000;">1 3 9 27 81 </span>ฉะนั้นตัวต่อไปจะได้ 243</span><br />
<span style="color: #000033;">5) เกิดจาก<strong>การหาร</strong> และตัวการเป็นเลขเรียงอันดับ ที่ลดลงครั้งละครึ่ง</span><span style="color: #0000cc;"><br />
<br />
เช่น ....<span style="color: #990000;">160 40 20 20</span>...หารด้วย 4,2,1 และ 5 เป็น 40<br />
<br />
<span style="color: #000033;">6) เกิดจากเลขเรียงอันดับที่<strong>ยกกำลังสอง</strong> และเลขยกกำลังเป็นสัดส่วนกัน</span><br />
<br />
เช่น โจทย์ <span style="color: #990000;">16 36 64 100</span>... ซึ่งเกิดจาก 4</span><span style="color: #0000cc;"> ยกกำลัง 2</span><span style="color: #0000cc;"> , 6 ยกกำลัง 2 , 8 ยกกำลัง 2 <br />
,10 ยกกำลัง 2 , 12 ยกกำลัง 2 เป็น 196<br />
<br />
<span style="color: #000033;">7) เกิดจากตัวเลข<strong>สัดส่วนยกกำลังสาม</strong> และเป็นตัวเลขเรียงอันดับเพิ่มขึ้น</span><br />
<br />
เช่น โจทย์<span style="color: #990000;"> 8 64 216 512</span> ... ซึ่งเกิดจาก 2 ยกกำลัง 3 , 4 ยกกำลัง 3 , 6 ยกกำลัง 3<br />
, 8 ยกกำลัง 3 และ 10 ยกกำลัง 3 เป็น 1,000<br />
<br />
<span style="color: #000033;">8) เกิดจาการ<strong>อนุกรมตัวเลข 2 ชุด</strong> ที่เรียงซ้อนกันอยู่ เช่น โจทย์ <span style="color: #990000;">3 7 5 9 7 11 9 </span>..ซึ่งชุดแรก</span><br />
<br />
มี <span style="color: #990000;">3 5 7 9</span> และชุดที่ สองคือ <span style="color: #990000;">7 9 11 13</span> โดยคำตอบอยู่ในชุดที่ 2 คือ 13<br />
<br />
<span style="color: #000033;">9) กรณีเกิดจากเลข<strong>อนุกรม 3 ชุด </strong>โดยทั้งสามชุดวางไว้สลับกัน</span><br />
<br />
โจทย์ <span style="color: #990000;">4 4 4 9 8 6 16 12 8 25 16</span> ...ซึ่งแต่ละชุดมีดังต่อไปนี้<br />
- ชุดแรก <span style="color: #990000;">4 9 16 25</span><br />
- ชุดสอง <span style="color: #990000;">4 8 12 16</span><br />
- ชุดสาม<span style="color: #990000;"> 4 6 8 ..?..</span> โดยคำตอบเป็น 10</span><br />
<br />
<span style="color: #0000cc;"><div align="center"><span style="color: green;"><span style="font-size: 14pt; line-height: 1.3em;">ข้อสอบอนุกรม (Number Series) พร้อมเฉลยจำนวน 50 ข้อ</span></span></div><div align="center"><span style="color: green;"><span style="font-size: 14pt; line-height: 1.3em;"><a href="http://bbs.thailocalmeet.com/aptitude_test/number_series/Number%20SieriesQA.pdf">ดาวน์โหลด</a></span></span></div><br />
<br />
<br />
</span>Unknownnoreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-78555449320300446282011-04-06T02:04:00.000-07:002011-04-06T02:04:42.491-07:00เทคนิคการทำข้อสอบเหนือเมฆ เทคนิคการเดาข้อสอบ<strong><span style="font-size: large;">เทคนิคการทำข้อสอบเหนือเมฆ เทคนิคการเดาข้อสอบ</span></strong><br />
<br />
<span style="font-size: large;">เป็นเทคนิคของเด็กม.6 แต่ท่านทั้งหลายก็สามารถนำมาประยุกต์ได้นะ</span><br />
ช่วงนี้ก็เข้าเทศกาล "สอบตรง" ของเหล่าเด็ก ม.6 ทั้งหลายแล้ว... <br />
ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คงจะรวมถึงเด็ก ม.5 ของรุ่นต่อๆไปด้วยล่ะนะ <br />
ที่จะโดน GAT/PAT ด้วย เอิ้กๆ <br />
<br />
ไม่รู้ว่าจะทำให้ยุ่งยากทำไม สอบก็สอบไปเลยเด้! <br />
ให้มันรู้ๆไป ผมว่าเด็กส่วนใหญ่ไม่ <span style="color: red;">สับสนตัวเอง ไม่รู้จะเลือกอะไร กูสอบหมดนั่นแหละ</span> <br />
ก็ <span style="color: red;">ผู้ปกครองยุยง สอบๆเหอะลูก ไม่เสียหาย...</span> <br />
ผมว่าเด็กพวกนี้มีเยอะครับ... <br />
สุดท้าย ผลประโยชน์ตกที่ไหน ตกที่สถาบันกวดวิชาน่ะแหละครับ... <br />
แล้วมาบอกว่า ป้องกันเด็กไม่ให้เรียนหักโหม แต่พี่ท่านดันให้เด็กสอบซะหักโหม... <br />
ไม่เข้าจริงๆ = =" <br />
<br />
กลับเข้าเรื่องดีกว่า... <br />
ไอ้ผมก็เห็นใจครับ... <br />
เพราะเห็นแล้วว่า แบบนี้วิกฤติแน่ๆ อ่านหนังสือไม่ทันแน่ๆ <br />
ไหนจะต้องเล่นเกมส์ spore ที่ตอนนี้เฟส 5 ยังไม่จบเลย... <br />
ไหนจะต้องมาโพสรูปลง Hi5 อีก... <br />
วิกฤติครับ วิกฤติ (สาระมากเลยนะเนี่ย ที่ทำอ่ะ! = =") <br />
เมื่อมันไม่มีทางเลือก... <br />
ผมก็ขอเสนอทางเลือกครับ... <br />
ด้วย<span style="color: red;">เทคนิคการทำข้อสอบแบบเหนือเมฆนั่นเอง!!! </span><br />
ก่อนอื่น... ทำความเข้าใจกันก่อนว่า... <br />
ข้อสอบเข้าส่วนใหญ่เป็น Choice อันนี้ทุกคนรู้ <br />
จะมีก็แต่วิชาคณิตศาสตร์ ที่ให้เติมคำแบบพิสดารนี่แหละครับ... <br />
<span style="color: red;">คือไม่มี Choice แล้วให้เติมคำเว่ย! <br />
เติมคำแบบฝนด้วยเว่ย! <br />
แล้วต้องฝนให้ครบทุกช่องด้วยนะเว่ย! <br />
เช่น ถ้าคำตอบออก 5 เมิ๊งก็ต้องฝน 000005.00 วะเห้ย! </span>โห... เวลาแค่คิดก็ไม่พอแล้วคร้าบบ <br />
จะให้ฝนยืดยาวทะมายเนี่ยยยยย <br />
<span style="color: grey; font-size: 10px;">อ๊ะ... แต่ก็มีคนได้ 100 เต็มนะ = =" เทพมาเกิดจริงจริ๊ง </span><br />
ซึ่ง Choice จะมีข้อดีตรงที่ <span style="color: red;">เดาได้! </span>แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ ไอ้ส่วนที่เรารู้แต่มันเลือนๆในสมอง มันจะทำให้เกิดความลังเล <br />
กูตัดเหลือ 2 Choice แล้วเนี่ย A หรือ B B หรือ A เอาไงว้า.... <br />
กา A ไป... แม่งตอบ B = =" <br />
นั่นแหละครับ... พอเรารู้แบบรางๆ มันจะบีบคั้นให้เราเลือกทางที่ผิดเสียส่วนใหญ่... <br />
เพราะงั้น อย่าอ่านมาดีกว่า (ฮา!) <br />
จะบ้าเรอะ... ก็อ่านให้มันเคลียร์ๆเด้ จะได้ไม่ต้องหลง ในเมื่อเอ็งอ่านแล้ว ก็ให้มันเคลียร์ๆเด้ <br />
<br />
แต่ถ้าเราอ่านไม่ทันล่ะ... <br />
ข้อสอบก็ไม่ใช่ว่าจะใช้เทคนิคตัด Choice กันได้แล้วนะ เดี๋ยวนี้ <br />
เพราะออกเหมือนเบิ้ล 2 <br />
ไปดูได้เลย แม่งบอกออก 100 ข้อนั่นแหละ <br />
แต่ทำจริงมัน 200 ข้อว่ะ <br />
เพราะว่า มันจะให้ข้อความมา... ก.บลาๆๆๆ ข.บลาๆๆๆ <br />
แล้วถามว่าข้อใดถูกว่ะ... <br />
4 Choice หลักๆ <br />
ก.ถูก ข.ผิด <br />
ก.ผิด ข.ถูก <br />
ถูกทั้งสอง <br />
ผิดทั้งสอง <br />
เออเว่ย! ตัด Choice ไม่ได้เลยว่ะ... <br />
แล้วถ้าเรารู้ข้อเดียวนี่แหละซวย... <br />
เพราะมันจะเกิด 50% แห่งหายนะ... <br />
สับสนแน่ๆเมิง ลองทำดู กูจะเลือกถูกข้อเดียว หรือถูกทั้งหมดดีว้าาาาา <br />
แล้วสุดท้ายก็ตกหลุมพี่แกจนได้ = =" <br />
<br />
เอาล่ะ... ทำความเข้าใจ(หรือว่าฟังกูบ่นวะเนี่ย = =")กันแล้ว <br />
เราก็จะมาพิชิตข้อสอบกันเล้ยยย! <br />
<br />
เทคนิคแรก... <span style="color: red;">ทิ้งดิ่ง </span>เทคนิคนี้เป็นเทคนิคแรกๆ ที่จะทำกันเมื่อเห็นว่า มันตอบคำตอบเหมือนกัน 2 ข้อแล้ว... <br />
เช่น... <br />
<br />
<table border="1" bordercolor="black" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
อ่ะ... เราเห็นแล้วว่า มันตอบ ก. มา 2 ข้อติดแล้ว... <br />
อาจารย์น่าจะใจดีตอบ ก. อีกซักข้อเป็น 3 ข้อติดล่ะว้า... ว่าแล้วก็ตอบ ก. ไปเร้ย <br />
<span style="color: red;">ข้อควรระวัง</span> <br />
ถ้าคิดจะตอบติดกันเป็น 4 ข้อเนี่ย... ต้องเปรี้ยวจริงๆถึงจะทำได้ <br />
เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่ไม่น่าจะใจดีขนาด 4 ข้อติด มันดูเป็นที่สังเกตเกินไป <br />
เพราะฉะนั้นใครจะตอบติดกันเป็นข้อที่ 4 ควรคิดให้จงหนักนะครับ เอิ้กๆ <br />
ส่วนสำหรับผู้ที่ไม่คิดอะไรมากเนี่ย เทคนิคทิ้งดิ่งนี่ ไม่แนะนำครับ... <br />
เพราะถ้าทิ้งไปตั้งแต่ 1-100 ผมว่ามันไม่ได้ 25 นะครับพี่ = =" <br />
พี่ต้องเปรี้ยวจริงๆ เพราะมันอาจจะวนๆอยู่ที่ 20 กว่าๆอ่ะครับ โอกาสน้อยที่จะแตะที่ 30 <br />
<br />
เทคนิคที่สอง... <span style="color: red;">ขั้นบันได </span>เทคนิคนี้อ้างอิงมาจากลำดับอนุกรมครับ... เราดูความเหมือนแล้วว่ามันน่าจะใช่ เราก็ตอบไปเร้ย <br />
<br />
<table border="1" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td>x </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
ป๊ะ... ข้อนี้น่าจะชัวร์ มันต้องตอบข้อ ง. ชัวร์ๆ <br />
รูปแบบมันลดเป็นขั้นบันไดอย่างนี้ ป๊ะ! ชัวร์ๆ ข้อ ง. ไปเร้ย <br />
<span style="color: red;">ข้อควรระวัง </span>ระวังให้จงหนัก เพราะมันอาจจะมี<span style="color: red;">การหักใน</span>ได้ = =" <br />
แบบนี้เป็นต้น... <br />
<br />
<table border="1" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td>x </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
โอ้วมายก๊อดดดดด! ทำไมมันหักในไปตอบ ข. ซะงั้นฟร้าาา เดา ง. ก็ผิดอ่ะเด้!!! <br />
<br />
เทคนิคที่สาม... <span style="color: red;">ข้ามขั้น</span> <br />
เทคนิคสังเกตมาครับ... เวลาเราเดาข้อลำดับ 3 เนี่ย เรามักจะเดาแบบข้ามขั้นครับ (หรือผมเป็นคนเดียวหว่า... = =") <br />
<br />
<table border="1" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
เมื่อเจอแบบนี้ส่วนใหญ่ ผมจะตอบข้อ ง. ไปเลยครับ... <br />
<span style="color: red;">แต่ก็ต้องมั่นใจว่าข้อลำดับ 4 มันไม่ตอบ ง.</span> นะ เพราะไม่งั้นต้องใช้เทคนิค ขั้นบันไดครับ.. ชัวร์กว่า = =" <br />
<span style="color: red;">ข้อควรระวัง </span>เพราะไม่มีสถาบันใดรองรับ ผมไม่รับประกันผลที่จะเกิดขึ้นนะครับ = =" <br />
<br />
เทคนิคที่สี่... <span style="color: red;">ซิกแซก </span>เทคนิคนี้ง่ายๆเลยครับ... สลับไปสลับมานั่นเอง... <br />
<br />
<table border="1" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td>x </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
แน่นอนว่าข้อต่อไปก็น่าจะตอบข้อ ข. ชิมิ <br />
หรือจะเป็นแบบนี้ก็ได้นะครับ <br />
<br />
<table border="1" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td>x </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
ว่าแล้วเราก็ตอบข้อ ก. ไป เอิ้กๆ <br />
<span style="color: red;">ข้อควรระวัง</span> <br />
ระวังมันออกขั้นบันได้นะเออ... ต้องดูข้อลำดับที่สี่ด้วย... <br />
<br />
<table border="1" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td>x </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td>x </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
ออกข้อ ง. ก็ผิดเต็มๆอ่ะเด้.... <br />
<br />
เทคนิคที่ห้า... <span style="color: red;">advance </span>มีอะไรก็ใส่ไปครับ... จัดไป......!!! <br />
<br />
<table border="1" style="width: 50px;"><tbody>
<tr><td>ก </td><td>ข </td><td>ค </td><td>ง </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td>x </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td> </td><td>x </td></tr>
<tr><td> </td><td> </td><td>x </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td>x </td><td> </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
<tr><td> </td><td>x </td><td> </td><td> </td></tr>
</tbody></table><br />
<br />
เป็นไงครับ... สวยงามไหมครับ อาจารย์ ผมตั้งชื่อภาพว่า "แอ๊บแตก" ครับ... <br />
คือผมแอ๊บแตกแล้วคร้าบบบบบ = =" <br />
<span style="color: red;">ข้อควรระวัง</span> <br />
เมิงจะระวังทำไม ในเมื่อเมิงแอ๊บแตกไปแล้ว ไม่ต้องระวงระวังแล้วววว <br />
ลุยไปเถิ๊ดดด แล้วไม่ต้องดูคะแนน แกเอ๊ย! <br />
<br />
สุดท้ายนี้... <br />
อย่าเอาสาระเด็ดขาด (อ่าว...) <br />
ถ้าเอ็งคิดกันมากเลือกเล็งข้อซะขนาดนี้ <br />
เอ็งไปอ่านเองดีกว่าไม๊! <br />
ไม่เสียเวลาตอนทำข้อสอบด้วย <br />
อ่านไปเหอะ ชีวิตเอ็งที่จะสอบเครียดๆแบบนี้ไม่ได้มีหลายครั้งนาเหวย... <br />
ขนาดตอนเอ็งซิ่ว เอ็งก็ยังรู้สึกๆชิวๆกว่าตอนที่อยู่ ม.6 จริงมะๆ <br />
เพราะงั้น อ่านไปเหอะ... หนังสือน่ะ <br />
แล้วเชื่อเหอะว่า อยู่มหา'ลัยแล้วเอ็งจะสบาย ถ้าเอ็งไม่ได้หวัง <span style="color: red;">เกียรตินิยม</span> นะ <br />
<br />
ที่มาของเทคนิคการเดาข้อสอบเหนือเมฆ http://bilnz.exteen.comUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-73794030649146783712011-04-06T01:56:00.000-07:002011-04-06T01:56:18.547-07:00เเนวข้อสอบวิชาคอมพิวเตอร์<span style="font-size: large;"><strong>เเนวข้อสอบวิชาคอมพิวเตอร์</strong></span><br />
<br />
1. เครือข่ายระดับต่อไปนี้ สามารถติดต่อส่งข้อมูลระหว่างเครื่องได้ไกลที่สุด<br />
ก. เครือข่าย MAN<br />
ข. เครือข่าย WAN<br />
ค. เครือข่าย LAN<br />
ง. ทุก ๆ เครือข่ายสามารถส่งข้อมูลได้ไกลเหมือน ๆ กัน ซึ่งอยู่ที่สายสัญญาณ<br />
2. ข้อใดกล่าวถึงการทำงานแบบ Multiuser<br />
ก. สามารถเปิดใช้คอมพิวเตอร์ได้ทีละหลาย ๆ เครื่อง<br />
ข. สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทีละหลาย ๆ หลาย ๆ โปรแกรม<br />
ค. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ทีละหลาย ๆ งาน<br />
ง. สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันพร้อม ๆ กัน และใช้โปรแกรมได้ทีละหลาย ๆ โปรแกรม<br />
<br />
<strong>ดาวน์โหลดแนวข้อสอบวิชาคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม</strong> <a href="http://www.mk-job.com/attachments/exam/com3/com3_1.doc">ดาวน์โหลด</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-51251662909643557552011-03-12T19:06:00.000-08:002011-03-12T19:06:19.991-08:00รวมข้อสอบพร้อมเฉลย การบัญชีการเงิน BM501 ม.รามคำแหง<strong><span style="font-size: large;">รวมข้อสอบพร้อมเฉลย การบัญชีการเงิน BM501 ม.รามคำแหง</span></strong><br />
<br />
ลองค้น ไฟล์เก่าๆ ดู เห็นว่ามีประโยชน์ในการทดสอบความเข้าใจของตนเองนะครับ...<br />
<br />
แต่ละไฟล์ มีหลายหน้าหลายแผ่น ผมได้จับคู่ และ แยกเป้น เซท ไว้เพื่อสะดวกในการ หาข้อมูล<br />
โดย ทุก ไฟล์ แบบฝึกหัด ก็จะ มีไฟล์เฉลย แบบฝึกหัดนั้นๆ สังเกต และ เลือก ดาวโหลด กันตามหมายเลขที่กำกับ นะครับ...<br />
<br />
Set 1 <a $included="null" href="http://www.mediafire.com/?667oa8ka4uelq" rel="nofollow" target="_blank"><span style="color: #006699;">www.medi.../?667oa8ka4uelq</span></a><br />
<br />
Set 2 มี 4 ชุดของแบบทดสอบ ที่นี่ <a $included="null" href="http://www.medi.../?5e90jqemg0s8a" rel="nofollow" target="_blank"><span style="color: #006699;">www.medi.../?5e90jqemg0s8a</span></a><br />
<br />
<br />
เครดิต http://www.ramtangdaen.com/index.php?option=com_kunena&Itemid=53&func=view&catid=22&id=1039Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-81326084092576659832011-03-12T18:47:00.000-08:002011-03-12T19:03:35.703-08:00แนวข้อสอบวิชา BM711การจัดการทรัพยากรมนุษย์ เกี่ยวกับกฏหมายแรงงานของ ม.รามคำแหง<strong>แนวข้อสอบวิชา BM711การจัดการทรัพยากรมนุษย์ เกี่ยวกับกฏหมายแรงงานของ ม.รามคำแหง</strong><br />
<br />
มีหลายไฟล์นะคครับ ลองไปโหลดกันดู เกี๋ยวกับ กฎหมายแรงงาน ในวิชา BM711 ครับ<br />
<br />
เลือก คลิกตามลิงก์ จากเว็บ mediafire ครับ<br />
<br />
<a $included="null" href="http://www.mediafire.com/?h87q8toni6w86b4" rel="nofollow" target="_blank">ตัวอย่างแนวข้อสอบ 1</a> <br />
<br />
<a $included="null" href="http://www.mediafire.com/?rv5g9bi146f3xie" rel="nofollow" target="_blank">ตัวอย่างแนวข้อสอบ 2</a> <br />
<br />
<strong>สรุปหลักกฏหมายแรงงาน</strong><br />
<br />
<strong>1. เรื่องการทดลองงาน</strong> <br />
กฎหมายคุ้มครองแรงงานปัจจุบัน มิได้จำแนกประเภทของลูกจ้างไว้ ดังนั้น ลูกจ้างทดลองงานจึงถือว่าเป็นลูกจ้าง มีสิทธิและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเช่นเดียวกับลูกจ้างทั่วไป “ เมื่อนายจ้างไม่ประสงค์จะจ้างลูกจ้างทดลองงานต่อไป ก็ต้องบอกเลิกจ้าง โดยต้องบอกกล่าวให้ลูกจ้างทราบในวันจ่ายค่าจ้างหรือก่อนวันจ่ายคราวใดคราวหนึ่งเพื่อให้มีผลเป็นการเลิกจ้างคราวถัดไป “ หากไม่บอกกล่าวล่วงหน้าหรือบอกกล่าวไม่ครบหรือถูกต้องตามกำหนดเวลาข้างต้นก็ต้อง จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า หรือค่าตกใจ ให้กับลูกจ้าง<br />
<a name='more'></a><br />
<br />
<strong>2. เรื่องการเกษียณอายุ</strong><br />
การที่บริษัทมีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกำหนดให้ลูกจ้างหญิง เกษียณอายุเมื่ออายุครบ 50 ปี และลูกจ้างชายเมื่ออายุครบ 55 ปี นั้น บริษัทปฏิบัติต่อลูกจ้างชายและหญิงไม่เท่าเทียมกัน ขัดต่อกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ข้อบังคับเฉพาะส่วนที่ให้ลูกจ้างหญิงเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 50 ปี ไม่มีผลบังคับใช้ เป็นโฆฆะ การเลิกจ้างลูกจ้างหญิงเมื่ออายุครบ 50 ปี จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่มีเหตุสมควร ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ศาลแรงงานอาจสั่งให้บริษัทฯ (จำเลย) รับลูกจ้างหญิงกลับเข้าทำงาน (โจทก์) หรือให้ชดใช้ค่าเสียหายแทนก็ได้<br />
<br />
<strong>3.เรื่องวันหยุดวันลา</strong> (เฉพาะที่ อาจารย์เน้น)<br />
3.1 วันหยุด<br />
3.1.1 วันหยุดประจำสัปดาห์ ไม่น้อยกว่า สัปดาห์ละ 1 วัน ระยะห่างกันไม่เกิน 6 วัน<br />
3.1.2 วันหยุดตามประเพณี กำหนดจากวันหยุดราชการประจำปี ( ไม่ใช่เอาวันหยุดของข้าราชการมาใช้ ซึ่งหยุด 16 วัน และไม่หยุดวันแรงงานด้วย ) วันหยุดทางศาสนา หรือขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น รวมแล้วไม่น้อยกว่าปีละ 13 วันโดยรวมวันแรงงานแห่งชาติ และต้องประกาศให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้า<br />
3.1.3 วันหยุดพักผ่อนประจำปี <br />
3.1.3.1 เมื่อทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่าปีละ 6 <br />
วันทำงาน โดยนายจ้างเป็นผู้กำหนดล่วงหน้าให้หรือกำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน <br />
3.1.3.2 เมื่อทำงานติดต่อมาแล้วครบ 1 ปี ในปีต่อมา นายจ้างอาจกำหนดให้มากกว่า 6 วัน ทำงานก็ได้<br />
3.1.3 .3 กรณีทำงานยังไม่ครบ 1 ปี นายจ้างอาจกำหนดให้ตามสัดส่วนก็ได้<br />
ลูกจ้างมีสิทธิที่จะสะสม และเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปี ที่ยังไม่ได้หยุดในปีนี้นั้นรวม<br />
กับปีต่อ ๆ ไปได้ โดยตกลงกันล่วงหน้าระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง<br />
และถ้าลูกจ้างมีสิทธิลาแล้วยังไม่ได้ใช้สิทธิแต่ถูกเลิกจ้างก่อนโดยไม่ได้กระทำความผิดอันทำให้หมดสิทธิได้รับค่าชดเชย นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วนที่ลูกจ้างมีสิทธิรวมทั้งวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมด้วย<br />
<br />
<strong>.2 วันลา</strong><br />
<br />
3.2.1 วันลาป่วย ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้ตามที่ป่วยจริง โดยการลาป่วยตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป <br />
นายจ้างอาจให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองแพทย์ นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดเวลาที่ลาป่วยแต่ไม่เกินปีละ 30 วันทำงาน และไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า<br />
3.2.2 วันลากิจ ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นได้ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน<br />
3.2.3 วันลาเพื่อคลอดบุตร ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาคลอดครรภ์หนึ่งไม่เกิน 90 วัน โดย<br />
นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานให้แก่ลูกจ้างนั้นตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 45 วัน และวันลาดังกล่าวให้นับรวมวันหยุดที่มีระหว่างวันลาด้วย การลาคลอดไม่ต้องแสดงใบสมรสหรือสูจิบัตร<br />
เวลาทำงานปกติ วันหนึ่งต้องไม่เกิน 8 ชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง<br />
<br />
<strong>การให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา</strong><br />
<br />
1. เป็นความยินยอมของลูกจ้างเป็นคราว ๆ ไม่ใช่ต้องทำตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง<br />
2. ลูกจ้างทุกคน ทุกตำแหน่ง มีสิทธิได้รับเงินค่าล่วงเวลา เพราะถือเป็นลูกจ้าง<br />
อัตราค่าจ้างล่วงเวลา ( เผื่อไว้ อ.ไม่ได้เน้น)<br />
1. ทำเกินเวลาในวันทำงานปกติ จ่ายไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง<br />
2. ทำเกินเวลาในวันหยุด จ่ายไม่น้อยกว่า 3 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง<br />
3. ถ้าให้ทำในวันหยุด จ่ายค่าทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 2 เท่า ด้วย ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง<br />
4.ค่าจ้าง หมายถึง เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอย่างอื่น หรือจ่ายโดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน และให้หมายรวมถึงเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดและวันลาที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานแต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน <br />
<br />
ข้อสังเกต อย่าสับสนกับเงินสวัสดิการ ดังนั้น ให้ดูที่เจตนาของนายจ้างด้วย ถ้าเป็นการจ่ายให้ลูกจ้างเพื่อไปจ่ายจริงและมีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินนั้น ก็เป็นเงินสวัสดิการ มิใช่เงินค่าจ้าง เช่น การเหมาจ่ายค่ารถ ค่าพาหนะ ค่าน้ำมันรถ ซึ่งต้องจ่ายจริงโดยกะประมาณตามความจริง แต่ถ้านายจ้างจ่ายโดยไม่คำนึงถึงว่าลูกจ้างจะนำไปใช้จ่ายจริงหรือไม่ เพียงแต่ว่า เมื่อลูกจ้างทำงานตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ก็จะได้ค่าพาหนะหรือค่าน้ำมันรถ ถือว่า นายจ้างมีเจตนาจ่ายให้เป็นรายได้ของลูกจ้าง เงินนั้นเป็นค่าจ้าง และหากนายจ้างมีเจตนาจ่ายให้ลูกจ้างอย่างสม่ำเสมอ และเป็นจำนวนเงินแน่นอน ถือเป็นค่าจ้าง ได้แก่ เงินรับรอง , เงินประจำตำแหน่ง , เงินเบี้ยเลี้ยง เงินค่านายหน้า เงินค่าครองชีพ เงินค่าเบี้ยกิโลเมตร เป็นต้น ส่วนเงินช่วยเหลือต่าง ๆ ถือเป็นสวัสดิการ เช่น ค่าอาหาร เงินช่วยเหลือบุตร เงินช่วยค่าน้ำประปา-ไฟฟ้า เงินช่วยค่าเช่าบ้าน เงินโบนัส เบี้ยขยัน เงินรางวัลประจำปี เงินบำเหน็จ เป็นต้น<br />
<br />
<strong>5. เรื่องการลาออก</strong><br />
<br />
1. ลูกจ้างจะลาออกด้วยวาจาหรือยื่นใบลาออกก็ได้โดยลงนามฝ่ายเดียวก็มีผลบังคับใช้ ไม่ต้องให้<br />
นายจ้างลงนามอนุมัติก็ได้ และเมื่อยื่นกับนายจ้างแล้วถือว่ามีผลบังคับใช้ทันที ลูกจ้างจะยกเลิกไม่ได้<br />
และนายจ้างก็ต้องให้ออกตามวันที่ลูกจ้างกำหนด ในกรณีการลาออกโดยให้มีผลล่วงหน้าก็ทำได้ <br />
2. เอกสารใบลาออกเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกจ้าง ลูกจ้างจะฉีกทิ้งเองหรือทำอย่างไรกับ<br />
เอกสารก็ได้ แต่เมื่อยื่นให้นายจ้างแล้ว กรรมสิทธิ์จะตกอยู่กับนายจ้าง ดังนั้น หากลูกจ้างยื่นให้นายจ้างแล้วไปเอามาฉีกทิ้ง จะมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา ถือเป็นการกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ตามกฎหมายแรงงาน และไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและจ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้าง ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์<br />
3. เมื่อลูกจ้างลาออกหรือถูกนายจ้างเลิกจ้างทุกกรณี นายจ้างต้องออกใบผ่านงานให้กับลูกจ้าง โดยระบุได้ 2 ข้อ คือ ทำงานมานานเท่าไหร่ กับ งานที่ทำนั้นเป็นอย่างไร เท่านั้น การระบุเรื่องจริงลงไปแล้วทำให้ลูกจ้างเสียหาย ทำไม่ได้ เพราะ<br />
1. กฎหมายไม่ได้ให้ระบุ<br />
2. เจตนาไม่สุจริต<br />
3. ใช้สิทธิในทางที่จะทำให้ผู้อื่นเสียหาย<br />
4. ผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย<br />
5. ลูกจ้างใช้ประโยชน์จากใบผ่านงานนั้นไม่ได้<br />
<br />
<strong>6. เรื่องค่าชดเชย</strong><br />
<br />
นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย กรณีดังต่อไปนี้<br />
<br />
1. บอกกล่าวกับลูกจ้างโดยตรงว่าเลิกจ้าง<br />
2. ลูกจ้างเกษียณอายุ<br />
3. เป็นลูกจ้างซึ่งไม่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน <br />
4. เป็นลูกจ้างที่ทำงานครบ 120 วัน แล้ว<br />
5. ลูกจ้างไม่ได้กระทำความผิดอันเป็นเหตุให้นายจ้างพ้นความรับผิดในการจ่ายค่าชดเชย เช่น ทุจริต<br />
ต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง , การฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมาย และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว , ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกัน ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม โดยไม่มีเหตุอันควร , ได้รับโทษจำคุก เป็นต้น<br />
อัตราการจ่ายค่าชดเชย (เผื่อไว้ อ.ไม่ได้เน้น)<br />
1. ทำงาน 120 วัน ไม่ครบ 1 ปี จ่าย ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน<br />
2. ทำงานครบ 1 ปี ไม่ครบ 3 ปี จ่าย ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน<br />
3. ทำงาน 3 ปี ไม่ครบ 6 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน<br />
4. ทำงาน 6 ปี ไม่ครบ 10 ปี จ่าย ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 240 วัน<br />
5. ทำงาน 10 ปีขึ้นไป จ่าย ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน<br />
<br />
<strong>7.เรื่องกฎหมายแรงงานสัมพันธ์</strong><br />
<br />
องค์กรทางแรงงาน<br />
1. องค์กรฝ่ายนายจ้าง ได้แก่ สมาคมนายจ้าง, สหพันธ์นายจ้าง<br />
2. องค์กรฝ่ายลูกจ้าง ได้แก่ สหภาพแรงงาน,สหพันธ์แรงงาน สภาองค์การลูกจ้าง , คณะกรรมการลูกจ้าง <br />
อ.เน้นเรื่องคณะกรรมการลูกจ้าง ซึ่งกฎหมายให้ความคุ้มครอง โดย “ห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้าง ลดค่าจ้าง ลงโทษ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการลูกจ้าง หรือกระทำการใด ๆ อันอาจเป็นผลให้กรรมการลูกจ้างไม่สามารถทำงานอยู่ต่อไปได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลแรงงานก่อน” ซึ่งถ้านายจ้างฝ่าฝืน ก็ทำให้การเลิกจ้างนั้น เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ต้องรับผิดทางอาญา<br />
<br />
อาจารย์ ให้หลักการพิจารณาของศาล เพื่อออกคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตตามที่นายจ้างยื่นคำร้องขอต่อศาล ดังนี้ <br />
1. เป็นกรรมการลูกจ้างอยู่ขณะนั้น <br />
2. ได้กระทำการดังที่กล่าวหาจริง<br />
3. มีข้อบังคับหรือระเบียบหรือคำสั่งกำหนดไว้<br />
4. ยังไม่ล่วงเลยเวลาที่จะลงโทษ<br />
5. ไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงว่าไม่ติดใจลงโทษแล้ว<br />
6. มีบทกำหนดโทษที่จะลงโทษในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน<br />
7. เป็นโทษที่ชอบด้วยกฎหมาย<br />
8. ระดับโทษตรงตามที่กำหนดไว้<br />
9. ลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำผิดนั้น<br />
<br />
<strong>1. ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและวิธีระงับข้อพิพาทแรงงาน</strong><br />
<br />
1.1 การยื่นข้อเรียกร้องเพื่อกำหนดหรือแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง<br />
ผู้มีสิทธิยื่นข้อเรียกร้อง<br />
1) ฝ่ายนายจ้าง แจ้งเป็นหนังสือ ระบุชื่อเข้าร่วมในการเจรจาซึ่งอาจเป็นตนเองหรือผู้แทนก็ได้ แต่<br />
ผู้แทนจะต้องเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือลูกจ้างประจำของนายจ้าง กรรมการของสมาคมนายจ้าง หรือกรรมการของสหพันธ์นายจ้าง และผู้เข้าร่วมในการเจรจาต้องมีจำนวนไม่เกิน 7 คน<br />
2) ฝ่ายลูกจ้าง ( เน้นให้จำ )<br />
2.1 กลุ่มลูกจ้าง จะต้องมีรายชื่อและลายมือชื่อของลูกจ้าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของลูกจ้างทั้งหมด ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องนั้น โดยถ้าลูกจ้างได้เลือกผู้แทนเข้าร่วมเจรจาก็ต้องระบุชื่อผู้แทนที่จะเข้าร่วมการเจรจามีจำนวนไม่เกิน 7 คน <br />
2.2 สหภาพแรงงาน ยื่นข้อเรียกร้องแทนสมาชิกได้ โดยจำนวนสมาชิก ซึ่งเป็นลูกจ้างต้องมีจำนวนไม่<br />
น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด กรณีของสหภาพแรงงาน ไม่ต้องมีรายชื่อและลายมือชื่อลูกจ้างซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง<br />
ข้อเรียกร้องต้องทำเป็นหนังสือ และจะต้องเกี่ยวกับสภาพการจ้าง คือเงื่อนไขการจ้างหรือการทำงาน กำหนดวันและเวลาทำงาน ค่าจ้าง สวัสดิการ การเลิกจ้างหรือประโยชน์อื่นของนายจ้าง หรือลูกจ้างอันเกี่ยวกับการจ้างหรือการทำงาน การยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ของลูกจ้าง หรือการแก้ไขเพิ่มเติม หรือการต่ออายุข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง และข้อกำหนดเกี่ยวกับวินัย หรือการลงโทษ<br />
<br />
ข้อเรียกร้องมี 2 กรณี คือ<br />
<br />
1. เรียกร้องตามที่ ”มี” กฎหมายกำหนด แบ่งเป็น<br />
1.1 เรียกร้อง ”ต่ำกว่า” ที่กฎหมายกำหนดไว้ในเรื่องนั้นๆ นายจ้างไม่อาจต่อรองและไม่อาจตกลง แต่อาจเจรจา แสดงน้ำใจให้ตามที่กฎหมายกำหนด<br />
1.2 เรียกร้อง “เท่า” ที่กฎหมายกำหนดไว้ในเรื่องนั้นๆ นายจ้างไม่อาจต่อรองและไม่อาจตกลงแต่อาจเจรจา แสดงน้ำใจให้ตามที่กฎหมายกำหนด<br />
1.3 เรียกร้อง ”สูงกว่า” ที่กำหนดไว้ในเรื่องนั้นๆนายจ้างต่อรองได้และเจรจาให้ได้เท่าหรือสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด<br />
<br />
2. เรียกร้องเรื่องที่ ”ไม่มี” กฎหมายกำหนด ได้แก่ เงิน สิ่งของ สิทธิประโยชน์ นายจ้างสามารถเจรจาได้ ต่อรองได้ ตกลงก็ได้หรือไม่ตกลงก็ได้<br />
<br />
ข้อสังเกตุ กฎหมายแรงงาน เป็นกฎหมายที่กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้างอันลูกจ้างพึงได้รับการปฏิบัติ ดังนั้น หากจำหลักกฎหมายไม่ได้ ให้พิจารณาตามความเป็นไปได้โดยให้ฝ่ายลูกจ้างได้รับประโยชน์มากที่สุดไว้ก่อน เช่น ลูกจ้างทำผิดเล็ก ๆ น้อย นายจ้างต้องมีหนังสือตักเตือนก่อน หรือว่ากล่าวหัวหน้างาน อย่าตอบว่า ให้เลิกจ้าง , ไล่ออก เป็นต้น<br />
<br />
เครดิต http://www.ramtangdaen.com/index.php?option=com_kunena&Itemid=53&func=view&catid=22&id=334Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-84846639596874959662011-02-24T01:26:00.000-08:002011-03-22T19:04:27.104-07:00อัพเดท ข่าวสอบตำรวจชันประทวนประจำปี 2554<strong>ข่าว ด่วน !! แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้แจ้งว่า สมัครสอบข้าราชการตำรวจชั้นประทวน วุฒิ ป.ตรี<br />
รับสมัครวันที่ 5-27 มี.ค.54 ทางอินเตอร์เนท<br />
สอบวันที่ 29 พ.ค.54</strong><br />
<br />
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2554 เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการศึกษา มีการ ประชุมการพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการจัดการวางแผนกระบวนการรับสมัครเพื่อ บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการตำรวจให้สอดคล้องกับแผนบริหารงบประมาณและแผน กำลังพลทั้งระบบตามมติที่ประชุม อ.ก.ตร. บริหารบุคคล ครั้งที่ 12/2553 โดยประกอบด้วย ผู้แทนของตำรวจภูธรภาค 1-9,ศชต.,สกพ.,สงป.,กมค.,สง.ก.ตร.,รพ.ตร,รร.นรต.,ทว.และ บช.ศ. เข้าร่วมประชุม โดยมี พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ศ. เป็นประธาน<br />
<br />
กองการสอบ ได้นำเสนอร่างแผนการ<strong><a href="http://สอบตํารวจ.blogspot.com/">รับสมัครและสอบแข่งขันบุคคลภายนอก ผู้มีวุฒิปริญญาตรี เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554</a></strong> โดยได้กำหนดช่วงระยะเวลาการรับสมัคร จนถึงการประกาศการสอบรอบสุดท้ายในช่วงระหว่าง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม 2554 ส่วนยอดจำนวนอัตราที่จะเปิดรับสมัคร สำนักงานกำลังพลได้เสนอ ตร.เพื่อขออนุมัติจำนวน 6,600 อัตรา <br />
<a name='more'></a><br />
<br />
กองการสอบ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ที่สนใจที่จะ<strong>สอบเป็นข้าราชการตำรวจ ชั้นประทวน</strong> ทราบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2554 จะมีการเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรีเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน จำนวน 6,600 อัตราหรือตามที่ ตร.จะกำหนด ช่วงเวลาในการรับสมัครสอบถึงประกาศผลรอบสุดท้าย อยู่ ระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม พ.ศ.2554 สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครสอบ จำนวนที่แต่ละหน่วย (ส่วนกลาง, ภาค 1-9, ศชต.) ได้รับจัดสรรและกำหนดวันเวลาที่แน่นอนจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป<br />
<br />
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2554 เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการศึกษา มีการ ประชุมการพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการจัดการวางแผนกระบวนการรับสมัครเพื่อ บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการตำรวจให้สอดคล้องกับแผนบริหารงบประมาณและแผน กำลังพลทั้งระบบตามมติที่ประชุม อ.ก.ตร. บริหารบุคคล ครั้งที่ 12/2553 โดยประกอบด้วย ผู้แทนของตำรวจภูธรภาค 1-9,ศชต.,สกพ.,สงป.,กมค.,สง.ก.ตร.,รพ.ตร,รร.นรต.,ทว.และ บช.ศ. เข้าร่วมประชุม โดยมี พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ศ. เป็นประธาน<br />
<br />
กองการสอบ ได้นำเสนอร่างแผนการรับสมัครและ<strong>สอบแข่งขันบุคคลภายนอก ผู้มีวุฒิปริญญาตรี เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554</strong> โดยได้กำหนดช่วงระยะเวลาการรับสมัคร จนถึงการประกาศการสอบรอบสุดท้ายในช่วงระหว่าง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม 2554 ส่วนยอดจำนวนอัตราที่จะเปิดรับสมัคร สำนักงานกำลังพลได้เสนอ ตร.เพื่อขออนุมัติจำนวน 6,600 อัตรา<br />
<br />
กองการสอบ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ที่สนใจที่จะ<a href="http://สอบตํารวจ.blogspot.com/"><strong>สอบเป็นข้าราชการตำรวจ</strong> <strong>ชั้นประทวน</strong></a> ทราบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2554 จะมีการเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรีเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน จำนวน 6,600 อัตราหรือตามที่ ตร.จะกำหนด ช่วงเวลาในการรับสมัครสอบถึงประกาศผลรอบสุดท้าย อยู่ ระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม พ.ศ.2554 สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครสอบ จำนวนที่แต่ละหน่วย (ส่วนกลาง, ภาค 1-9, ศชต.) ได้รับจัดสรรและกำหนดวันเวลาที่แน่นอนจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป<br />
<br />
<br />
<strong><u><span style="font-size: large;">คำถามที่ถามบ่อย</span></u></strong><br />
<br />
<strong><span style="color: blue;">วิชาอะไรที่ใช้สอบบ้าง ?</span></strong><br />
<br />
การสอบแข่งขันบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรีเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็น<strong>ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน</strong> แบ่งเป็น 2 สายคือ <strong>สายอำนวยการ และสายป้องกันปราบปราม</strong> โดยวิชาที่ใช้สอบมีดังนี้<br />
<u><strong>สายอำนวยการ</strong></u><br />
- <strong>ความรู้ความสามารถทั่วไป</strong><br />
<strong> - พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547</strong><br />
<strong> - ระเบียบงานสารบรรณ พ.ศ.2526</strong><br />
<strong> - จริยธรรมทั่วไป</strong><br />
- <strong>คอมพิวเตอร์</strong><br />
<strong><u>สายป้องกันและปราบปราม</u></strong><br />
- <strong>ความรู้ความสามารถทั่วไป</strong><br />
<strong> - กฎหมาย ป.วิอาญา ป.อาญา และ กฎหมายพยาน</strong><br />
<strong> - พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547</strong><br />
<br />
<strong>การสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนผู้มีวุฒิปริญญาตรีเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร แบ่งเป็น 2 สาย คือ สายอำนวยการ และสายป้องกันปราบปราม</strong> โดยมีวิชาที่ใช้สอบ ดังนี้<br />
<strong><u>สายอำนวยการ</u></strong><br />
- <strong>พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และกฎ ก.ตร. จริยธรรมตำรวจ,สอบสวนข้อเท็จจริง,ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547</strong><br />
<strong> - ระเบียบงานสารบรรณ พ.ศ.2526</strong><br />
<strong> - ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544</strong><br />
<strong> - พ.ร.ก ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546</strong><br />
<strong> - ภาษาไทย</strong><br />
<br />
<strong><u>สายป้องกันและปราบปราม</u></strong><br />
-<strong> กฎหมาย ป.วิอาญา ป.อาญา และ กฎหมายพยาน</strong><br />
<strong> - พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และกฎ ก.ตร. จริยธรรมตำรวจ,สอบสวน ข้อเท็จจริง,ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547</strong><br />
<strong> - พ.ร.ก ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546</strong><br />
อนึ่ง ในการสอบแต่ละครั้ง ต้องมีการประชุมกำหนดขอบเขตวิชาที่จะใช้ออกข้อสอบ จึงไม่สามารถที่จะระบุรายวิชาที่จะใช้สอบในคราวต่อไปได้ชัดเจน ซึ่งการสอบครั้งที่ผ่านมาครั้งนั้น ใช้รายวิชาดังกล่าวข้างต้น <br />
<br />
<strong><span style="color: blue;">ต้องใช้วุฒิการศึกษาใด ในการ<a href="http://สอบตํารวจ.blogspot.com/">สอบเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน</a> ? </span></strong><br />
<br />
ปัจจุบันนี้ การสอบเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนจะรับจากผู้มีคุณวุฒิระดับ ปริญญาตรี ส่วนจะเป็นคุณวุฒิทางใด สาขาใด ขึ้นอยู่กับสาย<br />
<br />
ขอบขอบคุณ http://www.sheetram.com<br />
<a href="http://สอบตํารวจ.blogspot.com/">http://สอบตํารวจ.blogspot.com/</a>Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-243292996457705392011-02-19T01:57:00.000-08:002011-02-19T01:59:48.458-08:00ถามตอบแนวข้อสอบวิชาชีพครู<strong><span style="font-size: large;"><u>แนวคำถามคำตอบแนวข้อสอบวิชาชีพครู </u></span></strong><br />
<br />
ข้อสอบนี้เป็นแนวคำถาม คำตอบเกี่ยวกับวิชาชีพครู มีทั้งหมด 100 ข้อ ซึ่งผมได้อ่านมาเลยเอามาฝากให้เพื่อนได้อ่านเตรียมตัวสอบกัน<br />
ที่มา <br />
<br />
http://www.sobdai.com/kroopuchuy/test-vichar-kroo/525-2011-02-05-12-44-22.html <br />
<br />
<div align="center"><strong><span style="text-decoration: underline;">ข้อสอบวิชาชีพครู</span></strong><strong><span style="text-decoration: underline;"></span></strong></div>1. วินัย คือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 1. กฎข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตาม<br />
2. การควบคุมความประพฤติของคนในองค์กรให้เป็นไปตามแบบแผนที่พึงประสงค์<br />
3. สหสัมพันธ์ระหว่างการประพฤติปฏิบัติตนของคนในองค์กรกับระเบียบข้อบังคับที่กำหนดไว้<br />
2. ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คือบทบัญญัติในมาตราใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> มาตรา 85<br />
3. มาตรา 88 กล่าวว่าอย่างไร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ต้องประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน<br />
4. ละทิ้งหน้าที่ หมายความว่าอย่างไร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ไม่อยู่ปฏิบัติงานตามหน้าที่<br />
5. ทอดทิ้งหน้าที่ หมายความว่าอย่างไร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ข้าราชการอยู่ที่ทำการแต่ไม่ทำงาน<br />
6. โทษทางวินัยมีกี่สถาน อะไรบ้าง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 5 สถาน ได้แก่ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก<br />
7. โทษทางวินัยไม่ร้ายแรงคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน<br />
8. ต้องไม่กลั่นแกล้งกล่าวหาหรือร้องเรียนผู้อื่น เป็นโทษ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ไม่ร้ายแรง<br />
9. กรณีผู้อำนวยการสถานศึกษาสั่งลงโทษวินัยไม่ร้ายแรงให้รายงานต่อใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา<br />
10. กรณีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสั่งลงโทษวินัยไม่ร้ายแรงให้รายงานต่อใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่<br />
<a name='more'></a><br />
11. ใครมีอำนาจสั่งแต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษา<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา<br />
12. ในกรณีที่ความผิดวินัยไม่ร้ายแรงให้อุทธรณ์ต่อใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่<br />
13. กรณีความผิดวินัยร้ายแรงให้อุทธรณ์ต่อใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ก.ค.ศ.<br />
14. หลักในการประพฤติปฏิบัติที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหายคือความหมายของ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จริยธรรม<br />
15. ลักษณะของครูที่ดีมีกี่ประการ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 10 ประการ<br />
16. ธรรมของคนดี คือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> สัปปุริสธรรม<br />
17. คุณธรรม 4 ประการ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเนื่องในงานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์<br />
200 ปี มีอะไรบ้าง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 1. การรักษาความสัตย์ 2. การรู้จักข่มใจตนเอง 3. ความอดทน อดกลั้น 4. การรู้จักระวางความชั่ว<br />
18. คุณธรรมพื้นฐานมีกี่ประการ อะไรบ้าง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 8 ประการ ได้แก่ 1. ขยัน 2. ประหยัด 3. ซื่อสัตย์ 4. มีวินัย 5. สุภาพ 6. สะอาด<br />
7. สามัคคี 8. มีน้ำใจ<br />
19. ความดีงามของลักษณะนิสัยหรือพฤติกรรมที่กระทำจนเกิดความเคยชิน<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> วัฒนธรรม<br />
20. ครูจา โมโหลูกศิษย์ที่ทำแบบฝึกหัดไม่ได้มากกำลังจะตี แต่คิดได้ว่าเราเป็นครูต้อสอนเขาให้รู้จึงไม่ตี แสดง<br />
ความครูจามีคุณธรรมตามข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ทมะ<br />
21. หลักธรรมในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ได้ดีที่สุดคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> สังคหวัตถุ 4<br />
22. หลักธรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จในการทำงาน เรียกว่าหลักธรรมในข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> อิทธิบาท 4<br />
23. ธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้สะอาดสดใสคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> อริยสัจ 4<br />
24. เป็นผู้ให้ความสนิทสนมแก่ศิษย์ เพื่อให้ศิษย์สบายใจและกล้าเข้าไปปรึกษาแสดงว่าครูวินัย ประพฤติ<br />
ตนเป็นครูที่ดีตาม ธรรมะกัลยาณมิตร ข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ปีโย<br />
25. ความเป็นผู้รู้จักประมาณ ตรงกับหลักธรรมใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> มัตตัญญตา<br />
26. ความวางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียงด้วยความชอบหรือชัง ตรงกับหลักธรรมใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> อุเบกขา<br />
27. ครูแก้วหมั่นตริตรอง พิจารณาแก้ไขงานที่ต้องปฏิบัติอยู่เสมอ แสดงว่าครูแก้วมีคุณธรรมข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> วิมังสา<br />
28. หิริ โอตตัปปะ คือหลักธรรมใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> โลกบาลธรรม<br />
29. บุคลที่มีคุณธรรม หิริโอตตัปปะ จัดว่ามีความซื่อสัตย์ต่อใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ผู้อื่น<br />
30. เจตคติ (Atttitude) หมายความว่าอย่างไร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ความรู้สึกของบุคคลทั้งทางบวกและทางลบ ที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง<br />
31. เจตคติเกิดได้ ต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ด้านความคิด ด้านความรู้สึก ด้านพฤติกรรม<br />
31. เจตคติเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้”อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เจตคติของบุคคลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ความคิด<br />
32. การวัดเจตคติที่นิยมกัน ได้แก่ การวัดของใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> Likert<br />
33. Congruent Change หมายถึงข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> การเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน<br />
34. สมศักดิ์มีเคารพต่อครูประจำชั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกที่เคยมีกลับลดลง ข้อความนี้สมศักดิ์มีเจตคติ<br />
เปลี่ยนแปลงอย่างไร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> เปลี่ยนแปลงไปคนละทาง <br />
35. จรรยาบรรณวิชาชีพครู หมายถึง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> แบบแผนที่ข้าราชการต้องประพฤติปฏิบัติ<br />
36. สถาบันวิชาชีพครู คือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> คุรุสภา<br />
37. มาตรฐานวิชาชีพครูในข้อใดกำหนดให้เป็นจรรยาบรรณของวิชาชีพ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> มาตรฐานการปฏิบัติตน<br />
38. ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จะขออีกได้เมื่อใด <br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 5 ปี<br />
39. โทษ พักใบอนุญาต ผู้ประพฤติจรรยาบรรณของวิชาชีพครู มีจำนวนกี่ปี<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ไม่เกิน 5 ปี<br />
40. ความประพฤติที่ผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ วิชาชีพพึงปฏิบัติ โดยบัญญัติไว้เป็นลายลักษณ์อักษร” หมายถึง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จรรยาบรรณ<br />
41. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ใช้ได้กี่ปี<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 5 ปี<br />
42. มาตรฐานวิชาชีพครู มีจำนวนกี่มาตรฐาน<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 3 มาตรฐาน คือ 1. มาตรฐานความรู้ และประสบการณ์วิชาชีพ 2. มาตรฐานการปฏิบัติงาน<br />
3. มาตรฐานการปฏิบัติตน<br />
43. จรรยาบรรณวิชาชีพครู มีกี่จรรยาบรรณ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 5 จรรยาบรรณ<br />
44. มาตรฐานการปฏิบัติงานของครูมีกี่มาตรฐาน<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 12 มาตรฐาน<br />
45. มาตรฐานใดที่เน้นการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> มาตรฐานที่ 8<br />
46. มาตรฐานใดที่เน้นพัฒนาผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> มาตรฐานที่ 3<br />
47. มาตรฐานที่ 12 เกี่ยวกับเรื่องใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> สร้างโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์<br />
48. หน่วยงานใดเป็นผู้กำหนดข้อบังคับว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครู<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> คุรุสภา<br />
49. ครู ถูกลงโทษ สำหรับผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครู มีสิทธิดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง<br />
ได้ตามข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการคุรุสภา<br />
50. ผู้ใดประกอบอาชีพครูโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องได้รับระวางโทษตามข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ<br />
51. ผู้ใดประกอบอาชีพครูในระหว่างพักใบอนุญาตต้องได้รับระวางโทษตามข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
52. โทษของผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครู มีกี่สถาน<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 5 สถาน<br />
53. ผู้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดกรณีผู้ประกอบวิชาชีพครูประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ<br />
54. ผู้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดได้กี่กรณี กรณีใดบ้าง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 5 กรณี คือ 1. ยกข้อกล่าวหา 2. ตักเตือน 3. ภาคทัณฑ์ 4. พักใช้ใบอนุญาต<br />
5. เพิกถอนใบอนุญาต<br />
55. ผู้ประสงค์จะต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ยื่นคำขอภายในกี่วัน<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 180 วัน<br />
56. อัตราค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 200 บาท<br />
57. ผู้มีอำนาจพิจารณาออกใบประกอบวิชาชีพทางการศึกษาคือผู้ใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ<br />
58. ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่เป็นชาวต่างชาติต้องมีประสบการณ์ในการปฏิบัติการสอนมาแล้วกี่ปี<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 1 ปี<br />
59. จรรยาบรรณวิชาชีพกำหนดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 1. รักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ ของผู้ประกอบวิชาชีพครู<br />
2. รักษาและส่งเสริมชื่อเสียง ของผู้ประกอบวิชาชีพครู<br />
3. รักษาและส่งเสริมฐานะ ของผู้ประกอบวิชาชีพครู<br />
60. แบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ประกอบด้วย<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> พฤติกรรมที่พึงประสงค์ และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์<br />
61. ครูแก้ว รัก เมตตา เอาใจใส่ ให้กำลังใจแก่ลูกศิษย์ แสดงว่าครูแก้วมีจรรยาบรรณข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ<br />
62. ครูหน่อย เป็นคนมีวินัยในตนเอง พัฒนาบุคลิกภาพ ให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ แสดงว่าครูหน่อยมี<br />
จรรยาบรรณข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จรรยาบรรณต่อตนเอง<br />
63. ครูต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ แสดงว่าครูต้องมีจรรยาบรรณข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ<br />
64. ครูต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กำลังใจศิษย์ แสดงว่าครูต้องมีจรรยาบรรณข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ<br />
65. ครูพึงช่วยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ แสดงว่าครูต้องมี<br />
จรรยาบรรณข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบอาชีพ<br />
66. ครูพึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม<br />
แสดงว่าครูต้องมีจรรยาบรรณข้อใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> จรรยาบรรณต่อสังคม<br />
67. ครูสมชายใช้เวลาว่างเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้ ข้อใดแสดงว่าครูมีเจตคติที่ดีต่อ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> วิชาชีพ<br />
68. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสิ้นสุดลงกรณีใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> หมดอายุ ถูกสั่งเพิกถอน ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต<br />
69. คุณลักษณะของวิชาชีพสูง ต้องได้รับการฝึกอบรมมีระยะเวลากี่ปี<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ไม่น้อยกว่า 4 ปี<br />
70. คุณลักษณะของวิชาชีพชั้นสูง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> มีจรรยาบรรณ มีสถาบัน มีการให้บริการแก่สังคมเป็นเฉพาะเจาะจง <br />
71. วิชาชีพครู กำหนดไว้ในกฎหมายใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546<br />
72. ผู้ที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพทางการศึกษาคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา บุคลาการทางการศึกษาอื่น<br />
73. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษามีกี่ประเภท<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 4 ประเภท<br />
74. อัตราค่าธรรมเนียมขอขั้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจำนวนเท่าใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 500 บาท<br />
75. อัตราค่าต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฉบับละเท่าไร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 200 บาท<br />
76. ค่าหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 300 บาท<br />
77. ค่าใบแทนใบอนุญาต<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 200 บาท<br />
78. ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถออกหนังสือรับรองสิทธิให้แก่ใครได้บ้าง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ครู และ รองผู้อำนวยการ<br />
79. เลขาธิการคุรุสภา ออกหนังสือรับรองสิทธิให้แก่<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ผู้บริหารการศึกษา<br />
80. คณะกรรมการคุรุสภามีจำนวนเท่าใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 39 คน<br />
81. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีจำนวนเท่าใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 17 คน<br />
82. บุคคลที่จะได้รับบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูต้องมีอายุกี่ปี<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ไม่ต่ำกว่า 18 ปี<br />
83. ครู ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตสถาน หมายความว่าอะไร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ผู้สั่งสอนศิษย์<br />
84. อาชีพที่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญที่ได้รับฝึกฝนมา คือความหมายของ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> วิชาชีพ<br />
85. ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพคือใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา<br />
85. ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็งแบ่งสมรรถนะคนออกเป็นกี่ส่วน<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 2 ส่วน<br />
86. บิดาแห่งสมรรถนะคือใคร<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> David McClelland<br />
87. สมรรถนะแบ่งออกเป็นกี่ประเภท<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 2 ประเภท คือ 1. สมรรถนะหลัก 2. สมรรถนะประจำสายงาน<br />
88. สมรรถนะ หมายถึง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> competency<br />
89. สมรรถนะหลักประกอบด้วยกี่สมรรถนะ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 5 สมรรถนะ<br />
90. ID-PLAN หมายถึง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> สมรรถนะของครู<br />
91. องค์ประกอบของสมรรถนะ คือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะส่วนบุคคล<br />
92. สิ่งที่แสดงออกอย่างประจำสม่ำเสมอคือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> พฤติกรรม<br />
93. การพัฒนาตนเอง คือสมรรถนะด้านใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> สมรรถนะหลัก<br />
94. การใช้หลักสมรรถนะในการพัฒนาบุคลากรจะมีบทบาทในส่วนใดเมื่อเทียบกับภูเขาน้ำแข็ง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ส่วนใต้น้ำ<br />
95. องค์ความรู้และทักษะต่างๆ อยู่ในส่วนใดของภูเขาน้ำแข็ง<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> ส่วนผิวน้ำ<br />
96. สมรรถนะหลักของข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา คือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> การบริการที่ดี<br />
97. สมรรถนะในการพัฒนาหลักสูตรของครู คือ<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> 1. สามารถจัดทำหลักสูตรได้<br />
<ol><li>สามารถวิเคราะห์หลักสูตรได้ </li>
<li>สามารถปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรได้ </li>
<li>สามารถประเมินหลักสูตรทั้งก่อนและหลังการใช้หลักสูตร </li>
</ol>98. เข้าใจธรรมชาติของผู้เรียน หมายถึงสมรรถนะด้านใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ </span> สมรรถนะจิตวิทยาสำหรับครู<br />
99. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน คือสมรรถนะใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> สมรรถนะหลัก<br />
100. การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คือสมรรถนะใด<br />
<span style="text-decoration: underline;">ตอบ</span> สมรรถนะประจำสายงานUnknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-69721931181152915342011-02-17T23:30:00.000-08:002011-02-19T02:15:18.949-08:00เทคนิคการเดาข้อสอบอย่างมีหลักการ<strong><span style="font-size: large;">เทคนิคการเดาข้อสอบอย่างมีหลักการ</span></strong><br />
<br />
เทคนิคการเดาอย่างมีหลักการ เพิ่มโอกาสถูก 30-100% ถึงเรียนไม่เก่ง อ่านไม่จำ แต่ก็ทำข้อสอบได้ <br />
1. เข้าห้องสอบตรวจสอบเลย เลขที่สอบถูกไหม เขียนชื่อ รายละเอียดต่างๆ ให้ครบ แต่ละปีจะมีผู้ทำข้อสอบแบบไม่ประสงค์ออกนามมากมาย<br />
<br />
2. ให้ดูข้อสอบโดยรวมว่าวิชาที่เราทำอยู่มันตรงไหม จำนวนข้อมันเท่ากับที่เขาบอกไหม ถ้ามันถูกต้อง ก็เริ่มทำข้อสอบ <br />
<br />
3. เวลาเริ่มทำข้อสอบอย่างแรกเลย ไม่ต้องเร่ง ค่อยๆทำ ควรมีการจัดการเรื่องข้อสอบก็คือทำข้อง่ายถึงข้อยาก ถามว่าข้อไหนข้อง่าย คือเรื่องที่เรารู้ บทไหนรู้เรื่องทำมันเลย ทำข้อง่ายก่อนข้อยาก พอเวลาทำข้อง่ายได้แล้วไม่ต้องรีบทำนะ ทำแบบสบายๆ ไม่ต้องร้อนรน ข้อไหนทำได้มาร์คใว้ อย่าทำไปเดาไป เดี๋ยวเรามาเดารวดเดียวตอน 10 นาทีสุดท้าย เดารวดเดียวไม่เป็นไร เรามีโอกาสถูกมากกว่า 25% แน่นอน <br />
<br />
4. เราจะแบ่งเวลา 3 ช่วง 90 นาที ,20 นาที , และ 10 นาทีสุดท้าย 90นาทีแรกทำข้อสอบที่ทำได้ ข้อทำไม่ได้ทำไม่ทันปล่อยมัน พอ 90 นาทีหมดเวลาเลิกทำเลยครับ ข้อไหนทำไม่ทันไม่ได้อ่านโจทย์ไม่เป็นไร <br />
<a name='more'></a><br />
5. 20 นาทีที่เหลือให้ทบทวนข้อที่ทำได้ (ที่เรามาร์คไว้) ข้อที่บอกว่าได้คะแนนแน่ๆ เพราะเป็นเรื่องที่เรารู้เรื่อง ทำไมถึงไม่ให้ไปทำข้อที่ทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่รู้เรื่องจะไปเสียเวลากับมันอีกทำไม ทบทวน 20 นาทีทำกับเรื่องที่ทำได้ให้ชัวร์ <br />
<br />
6. 10 นาทีสุดท้ายเดา ผมมีวิธีเดาให้คุณเดาตั้งแต่ถูกตั้งแต่ 30% - 100% ใน 8 เทคนิคการเดา ใน 3-4 เทคนิคหลังถูก 100% ไม่ต้องไปหาหนังสือที่ไหน เพราะไม่มีใครเขาทำกัน <br />
กฎการเดาข้อที่ 1 โอกาสที่เป็นไปได้ หลักการตัวเลขที่ใช้ตัวจริงตัวปลอม ถ้าเราเจอ ข้อสอบคณิตศาสตร์ที่มันมีตัวเลขเศษส่วน บอกได้เลยคำตอบนี้มักจะเป็นเลขลงตัว เพราะว่าอาจารย์เขารู้คำตอบอยู่แล้ว เขาก็เอาคำตอบที่มันลงตัวมาเป็นคำตอบ คณิตศาสตร์ชอบเลขลงตัวอยู่แล้ว ส่วนถ้าเป็นวิทยาศาสตร์ โจทย์ที่ออกมาในรูปแบบเป็นตัวเลขยุ่งๆ ซับซ้อน พวกนี้คำตอบก็จะเป็นเลขลงตัวเหมือนกันครับ <br />
<br />
ขอขอบคุณ http://tuent.eduzones.comUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-70578752507000603492011-02-17T23:27:00.000-08:002011-02-17T23:27:12.723-08:00เทคนิคการทำข้อสอบแบบอัตนัย และปรนัย<span style="color: blue; font-size: large;">เทคนิคการทำข้อสอบแบบอัตนัย และปรนัย</span><br />
<br />
<strong>ข้อสอบแบบ"อัตนัย"</strong><br />
<br />
อ่านคำสั่งอย่างระมัดระวัง ให้มั่นใจว่าคำถามถามเกี่ยวกับอะไรและจะต้องตอบอย่างไร กะเวลาให้ดี เพื่อที่จะทำข้อสอบได้ทันเวลา ถ้ามีเวลาเหลือเราก็ควรจะตรวจสอบคำตอ ของคุณให้ดี จะต้องตอบคำถามละเอียดแค่ไหน โดยดูจาก ให้ตอบอย่างสั้นเมื่อคำถามมีคำว่า "ระบุ" หรือ "เขียนเป็นข้อๆ" หรือ "ชื่อ..."ให้ตอบอย่างยาว ถ้าคำถามถามด้วยคำว่า "อธิบาย.." หรือ "บรรยาย.." หรือ "ทำไม.." ดูคะแนนที่ให้ไว้ในคำตอบของแต่ละส่วน เราจะได้ทราบคะแนนที่ผู้ตรวจให้เราในแต่ ละข้อนั้น <br />
จำนวนเส้นของช่องว่างอาจจะบอกใบ้ให้รู้ว่าควรเขียนคำตอบมากเท่าใด <br />
พยายามตอบคำถามให้ครบทุกคำถาม <br />
<br />
<strong>ข้อสอบแบบ"ปรนัย "</strong><br />
<br />
อ่านคำสั่งอย่างละเอียด ถ้าทำในกระดาษคำตอบ ควรทำเครื่องหมายตามที่คำสั่งระบุไว้อย่างเคร่งครัด และทำ เครื่องหมายคำตอบให้ตรงกับข้อคำถาม ควรดูตัวเลือกให้ทั่วที่จะเลือกข้อใดข้อหนึ่ง <br />
ถ้าต้องเดา ควรเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองโดยการตัดคำตอบที่ผิดออกไปให้มากที่สุดเท่า ที่จะทำได้ ถ้าข้อไหนที่ทำไม่ได้ให้ผ่านไปคิดข้อต่อไปก่อน เพื่อเป็นการประหยัดเวลา หลังจากทำเสร็จ ควรตรวจดูว่าได้ตอบคำถามครบทุกข้อแล้ว <br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-25147247505241722162011-02-17T23:19:00.000-08:002011-02-19T02:15:57.567-08:00การเตรียมตัวก่อนการสอบ<strong><span style="font-size: large;"><u>การเตรียมตัวก่อนสอบ</u></span></strong> <br />
<br />
เทคนิคนี้ผมเอามาจากเว็บ http://www.hot-ed.co.th ให้เพื่อนๆทดลองใช้ดูครับ<br />
<br />
1. ทบทวน ท่อง ทฤษฎีบทหรือนิยาม ของบทเรียนที่จะมีการสอบ ให้ได้อย่างขึ้นใจ ชนิดที่ว่าแม้พิสูจน์โจทย์ข้อสอบนั้นไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถแสดงความสัมพันธ์ของโจทย์กับทฤษฎีบทหรือนิยามนั้นๆ ให้อาจารย์ผู้ตรวจข้อสอบอ่านได้อย่างถูกต้อง รับรองว่าต้องได้คะแนนข้อนั้นอย่างแน่นอน จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลายมือผู้สอบจะเขียนได้สวยแค่ไหน <br />
<br />
2. ทบทวนแบบฝึกหัดทุกข้อ ที่อาจารย์ผู้สอนชอบย้ำนักหนาในห้องว่า "ข้อสอบก็ออกในแนวนี้ละ" หรืออาจารย์บางท่านก็พูดย้ำตรงๆ เลยว่า "ข้อนี้ออก............นะ" ดังนั้นเวลาเรียนถ้าเจออาจารย์พูดแบบนี้ ก็อย่าลืมเอาปากกาแดงทำ * กาไว้ที่แบบฝึกหัดข้อนั้นให้ใหญ่ๆ เลยทีเดียว รับรองไม่พลาด ถ้าข้อไหนทวนหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ให้ฝึกเขียนหลายๆครั้ง จนจำขึ้นใจ <br />
<br />
3. เตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนที่จะใช้ในการสอบให้พร้อม เข้านอนแต่หัวค่ำทำใจให้ผ่องใส อย่าลืมสวดมนต์ไหว้พระและนั่งสมาธิทำใจนิ่งๆว่างๆก่อนนอนสัก 5 นาที จะทำให้ใจสงบและหลับอย่างเป็นสุข พร้อมจะเผชิญอุปสรรค ของวันใหม่ <br />
<a name='more'></a><br />
<br />
4. ตื่นนอนตี 5 ของวันใหม่ ล้างหน้าล้างตาให้สดใส ทบทวนเนื้อหาทั้งหมด ตลอดจนทฤษฎีบท แบบฝึกหัด (ที่ทบทวนไปเมื่อวาน) โดยอ่านแบบผ่านๆ สายตา ความเงียบสงบของเช้าตรู่จะช่วยให้จำได้ดี<br />
<br />
5. ถึงหน้าห้องสอบก่อนเวลา สัก 10 นาที ตรวจเลขที่นั่งสอบของตนเองให้เรียบร้อย และไม่ต้องสนใจที่จะถกปัญหาเรื่องโจทย์กับใคร ตลอดจนไม่อ่านหนังสือ หรือทบทวนอะไรในหัวสมองอีก ทำใจให้เบิกบานว่างๆ ไม่สนใจคนรอบข้าง <br />
<br />
6. เมื่อผู้คุมสอบเรียกเข้าห้อง เข้านั่งประจำโต๊ะ วางอุปกรณ์เครื่องใช้ เครื่องเขียนในทิศทางที่หยิบใช้ได้ง่าย นั่งตัวตรงทำใจว่างๆ เตือนสติตนเองอีกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่พยายาม "ทุจริต" ด้วยวิธีการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะนั้นเท่ากับเราหมดภูมิและพยายามฆ่าตัวตายชัดๆ <br />
<br />
7. รอกรรมการแจกข้อสอบ หรือถ้าข้อสอบวางคว่ำอยู่บนโต๊ะแล้ว ให้รอคำสั่งเปิดข้อสอบ เมื่อเวลาสัญญานเริ่มทำการสอบดังขึ้น จึงเริ่มทำข้อสอบอย่างตั้งใจ<br />
<br />
<strong><span style="font-size: large;"><u>ขณะทำการสอบ</u></span></strong><br />
<br />
1. เปิดข้อสอบเมื่อได้รับคำสั่ง ตรวจสอบเวลาทำการสอบรวมกี่ชั่วโมงที่หัวข้อสอบให้แน่ชัด เสร็จแล้วเขียนชื่อ/นามสกุล ชั้น/ห้อง เลขที่ประจำตัว เลขที่สอบให้เรียบร้อย ขณะเดียวกันให้ฟังกรรมการผู้คุมสอบไปด้วยว่า มีคำสั่งแก้ไขข้อสอบหรือไม่ ถ้ามีให้พลิกข้อสอบ ไปทำการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงกลับมาเขียนข้อมูลส่วนตัวบนหัวกระดาษคำตอบให้เรียบร้อย <br />
<br />
2. พลิกดูข้อสอบทั้งหมดมีกี่ข้อ เป็นปรนัยกี่ข้อ อัตนัยกี่ข้อ คำนวณเวลาที่มี โดยปกติข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ จะใช้เวลามากกว่าปรนัยประมาณ 3 เท่า ว่าควรจะใช้เวลาคิดได้ข้อละกี่นาที และเหลือเวลาไว้ตรวจสอบคำตอบทั้งหมดในตอนท้ายประมาณ 10 นาที เพราะผู้ออกข้อสอบจะคำนึงถึงเวลาที่ให้กับความยากง่ายของข้อสอบเสมอ <br />
<br />
3. เมื่อได้เวลาเฉลี่ยต่อข้อในการทำข้อสอบแล้ว พลิกข้อสอบดูคร่าวๆ ตั้งแต่ข้อ 1 ไปถึงข้อสุดท้ายอีกครั้ง เพื่อดูว่าข้อสอบข้อใดบ้างง่ายสำหรับเรา ให้ลงมือทำเลยโดยไล่จากข้อสอบแบบปรนัยไปแบบอัตนัย<br />
<br />
4. อ่านคำสั่งให้เข้าใจว่าแต่ละส่วนของข้อสอบเขาให้เราตอบอย่างไร ให้วงกลม กากะบาด หรือเติมคำตอบสั้นๆ จับคู่ หรือแสดงวิธีทำ มีผู้เข้าสอบเป็นจำนวนมากต้องเสียใจกับความผิดพลาด เพราะละเลย ไม่อ่านคำสั่งให้ดี เกี่ยวกับการแสดงคำตอบที่ถูกต้องมามากต่อมากแล้ว<br />
<br />
5. เริ่มทำข้อสอบที่ยากจากข้อแรกไปตามลำดับ อย่าลืม "การวิเคราะห์โจทย์อย่างมีประสิทธิภาพ" จะช่วยให้วางแผนในการคิดหาคำตอบในแต่ละข้อได้รวดเร็วยิ่งขึ้นUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-91044155837212335392011-02-17T23:06:00.000-08:002011-02-19T02:16:36.475-08:00เทคนิคการทำข้อสอบให้ทัน<span style="background-color: cyan; font-size: large;"><strong>เทคนิคการทำข้อสอบให้ทัน</strong></span><br />
<br />
อันนี้เป็นเทคนิคของคุณปอยแห่งบล็อก http://im-police-lady.blogspot.com ส่วนของผมก็มีเหมือนกันครับแต่ก็คล้ายของคุณปอยเหมือนกันถ้าวันหลังว่างๆจะเอามาแชร์เพื่อนบ้างๆ<br />
<br />
<em>เมื่อปี 52 ที่ผ่านมา ฉันจำได้ว่ามีหลายคนที่ทำข้อสอบไม่ทัน เพราะมัวแต่ทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ กับ ภาษาไทย ซึ่งเป็นข้อสอบที่ต้องคำนวณและวิเคราะห์ แต่ละข้อก็กินเวลาเกินกว่าข้อละหนึ่งนาที เพราะฉะนั้น ฉันขอแนะนำวิธีที่จะทำข้อสอบให้ทันนะคะ </em><a href="http://www.blogger.com/" name="more"></a><em> อันดับแรกคุณต้องคำนวณสัดส่วนระหว่างจำนวนข้อสอบและจำนวนเวลาว่า แต่ละข้อเราต้องทำข้อสอบไม่เกินข้อละกี่นาที กี่วินาที เมื่อปี 52 ที่ผ่านมา ข้อสอบมีจำนวน 100 ข้อ 2 ชั่วโมง ก็เอา 120 นาที หาร 100 ข้อ เฉลี่ยแล้ว ทำข้อสอบข้อละ 1.20 นาที <br />
<br />
วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ยากสำหรับฉัน ในการที่จะคำนวณไม่ให้เกิน 1.20 นาที ฉันเลยทำข้อสอบวิชาอื่นก่อนค่ะ คณิตศาสตร์เป็นวิชาอันดับสุดท้ายที่ฉันจะทำ วิชาอื่นๆ นั้นฉันทำข้อละไม่ถึง 1 นาที แต่ก็ต้องอ่านให้ละเอียดนะคะ อย่ารีบอ่านแบบผ่านๆ เพราะข้อสอบนั้นค่อนข้างจะลวงให้เราเข้าใจผิดค่ะ ทีนี้เราก็สามารถเอาเวลาที่เหลือจากข้ออื่นๆ มาเพิ่มเวลาในการคำนวณคณิตศาสตร์ได้ค่ะ </em><br />
<a name='more'></a><br />
ส่วนเทคนิคในการฝนข้อสอบนั้น ฉันขอแนะนำนะคะ ข้อไหนคุณมั่นใจว่าตอบถูกชัวร์ ก็ฝนให้เต็มวง แต่ยังไม่ต้องฝนให้ดำนะคะ เพราะจะเสียเวลาไปหลายวินาที ข้อไหนที่ไม่แน่ใจ ก็ฝนกลางวงเป็นจุดเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยกลับมาทำ ส่วนข้อไหนไม่ทราบคำตอบ ให้กากบาทหน้าเลขคำถามในข้อสอบไว้นะคะ หมายเหตุไว้ว่ายังไม่ได้ตอบ เพื่อที่จะได้กลับมาทำเป็นอันดับสุดท้าย ทำไปจนเสร็จทุกข้อ แล้วค่อยกลับมาฝนให้ดำ และไม่ล้ำเส้นวงกลมออกมานะคะ และอย่าลืมเช็คกระดาษคำถามด้วยนะคะว่ามีข้อไหนบ้างที่เรายังไม่ได้ตอบ เมื่อตอบไปแล้วก็ลบกากบาทนั้นออกด้วย อย่าลืมว่า คุณต้องหมั่นดูเวลาด้วยนะคะ <br />
<br />
วิชาคณิตศาสตร์นั้น ดิฉันจะมีปัญหามากในการใช้กระดาษทด เพราะเค้าไม่แจกให้ เราก็จัดการหาเนื้อที่ช่องว่างๆ ในกระดาษคำถามนั่นเลยค่ะ ใช้คำนวณได้เลย <br />
<br />
สมมุติว่าตอนนี้คุณกำลังฝึกทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ ให้คุณเอานาฬิกาจับเวลาเลยนะคะ แล้วฝึกฝนการคิดคำนวณด้วยนะคะ ท่องสูตรคูณด้วยหล่ะ ดิฉันเกือบเอาตัวไม่รอดเพราะสูตรคูณนี่แหล่ะ เพราะไม่ค่อยได้ใช้ อ้อ ! ลืมบอกไปว่า ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2540 แล้วมาสอบตำรวจปี 2552 เกือบ 12 ปีที่จบออกมา วิชาที่ได้เรียนมา ก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว ก็ขอแนะนำผู้เข้าแข่งขันสอบทั้งหลาย ว่าเอาวิชาคณิตศาสตร์ชั้นประถม มัธยมมาอ่าน นับว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว ไม่ต้องอายเด็กนะคะ แล้วคุณก็จะประสบผลสำเร็จในการทำข้อสอบค่ะ <br />
<br />
<br />
<em>ขอขอบคุณคุณปอยมากครับ</em>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-52322667343411734972011-02-17T22:58:00.000-08:002011-02-17T22:59:29.440-08:00เทคนิคการอ่านหนังสือวิชาคณิตศาสตร์<strong>ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 40 คะแนน)</strong> <br />
<br />
1. ความสามารถทั่วไป 20 ข้อ<br />
<br />
ทดสอบความสามารถในการคิดหาเหตุผล โดยใช้ข้อมูลหรือปัญหาทางสังคม ทางเศรษฐกิจหรือทางอื่น อุปมาอุปไมย การประยุกต์วิธีการทางสถิติกับข้อมูลจริง การแก้ปัญหาโจทย์อนุกรม การวิเคราะห์ตีความจากรูปภาพ เงื่อนไขภาษา สัญลักษณ์โจทย์คณิตศาสตร์พื้นฐาน เปอร์เซ็นต์หรือร้อยละ สถิติข้อมูล กราฟ ตาราง มิติสัมพันธ์ และแผนภูมิต่างๆ <br />
<a href="http://www.blogger.com/" name="more"></a> พออ่านแบบนี้ ฉันมึนไปเลยค่ะ เพราะว่าฉันไม่เก่งคณิตศาสตร์ ทีนี้ทำยังไงดีหล่ะ วิธีที่จะทำให้เราทำข้อสอบแบบนี้ได้ก็คือ เสิร์ชใน Google อีกค่ะ หาเรื่องเกี่ยวกับข้อสอบคณิตศาสตร์ของการสอบเข้าหลาย ๆ ที่ เช่น ข้อสอบ ก.พ., ข้อสอบ อบต. เป็นต้น<br />
<br />
เริ่มจาก <br />
<br />
1. <strong>ให้ฝึกทำเลขอนุกรม</strong><br />
<br />
ตัวอย่าง 7 21 10 26 14 32 19 ......... เลขต่อไปคืออะไร ตอบ 39 <br />
<br />
118 152 96 130 74 108 ...... เลขต่อไปคืออะไร ตอบ 52<br />
<br />
2. <strong>ให้ฝึกทำอุปมาอุปไมย</strong> <br />
<br />
ตัวอย่าง ขนุน : เงาะ :: ? : ? ตอบ ทุเรียน : ลำไย<br />
<br />
ไข้หวัด 2009 : มะเร็ง :: ? : ? ตอบ อหิวาตกโรค : กระเพาะ<br />
<br />
3. <strong>ให้ฝึกทำโจทย์คณิตศาสตร์ทั่วไป มัธยฐาน</strong> <br />
<br />
ตัวอย่าง - อัตราการฟักของไข่ไก่เท่ากับ 3 ใน 4 ฟอง ถ้าต้องการลูกไก่ 240 ตัว จะต้องใช้ไข่ไก่กี่ฟอง ตอบ 320 ฟอง<br />
<br />
- โรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียน 350 คน ชอบฟุตบอล 190 คน ชอบวอลเล่ย์บอล 180 คน ชอบทั้งสองอย่างกี่คน ตอบ 20 คน<br />
<br />
- ความสูงของนักเรียนนายร้อยตำรวจจำนวน 10 คน 178 175 173 173 174 176 173 180 172 177 หาค่ามัธยฐาน ตอบ 174.5<br />
<br />
<br />
4. <strong>ให้ฝึกทำตีความจากรูปภาพ</strong> <br />
<br />
<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgkZcTPpo1zCKoPNj-n4cnwWwVDu8xudarfsOoZBjtLMWtBRICXVWFQ-hShjuQapEYxLwwvCZ3VhdpSscPJqVQYQ3wO2s_AqH9LaNfLvaEaGzDLKeXh3JQqsQvEgcoNc7mX18LXI2bwy3yD/s1600-h/Clip_3.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; cssfloat: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" kt="true" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgkZcTPpo1zCKoPNj-n4cnwWwVDu8xudarfsOoZBjtLMWtBRICXVWFQ-hShjuQapEYxLwwvCZ3VhdpSscPJqVQYQ3wO2s_AqH9LaNfLvaEaGzDLKeXh3JQqsQvEgcoNc7mX18LXI2bwy3yD/s320/Clip_3.jpg" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">การตีความจากรูปภาพ</td></tr>
</tbody></table><div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;"><br />
</div><div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;"><br />
</div><div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: left;">ขอขอบคุณปอยจากบล็อก http://im-police-lady.blogspot.com</div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-19294650412590924422011-02-17T02:35:00.000-08:002011-02-17T02:35:08.980-08:00แนวข้อสอบ ธกส พนักงานพัฒนาธุรกิจ และอื่นๆ<span style="font-size: large;"><span style="background-color: white;"><span style="color: #688f96;"><strong>แนวข้อสอบ ธกส พนักงานพัฒนาธุรกิจ</strong> </span>และอื่นๆ</span></span><br />
<br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/13344693/torgorsormini.pdf.html" rel="nofloow" target="_blank" title="แนวข้อสอบ ธกส"><span style="color: #688f96;">แนวข้อสอบ ธกส พนักงานพัฒนาธุรกิจ </span></a><br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/12058158/TestTorkorsor.rar.html" rel="nofollow" target="_blank"><span style="color: #688f96;">แนวข้อสอบ ธกส 10ชุด</span></a> <br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/11611210/TorkorSor.rar.html" rel="nofollow" target="_blank"><span style="color: #688f96;">แนวข้อสอบ ธกส</span></a> <br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/12211988/120.rar.html" rel="nofollow" target="_blank"><span style="color: #688f96;">แนวข้อสอบ ธกส ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจ </span></a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-28570364255685210592011-02-17T02:19:00.002-08:002011-02-17T22:44:38.814-08:00แนวข้อสอบตำรวจ สายธุรการ อำนวยการ และพรบ.ตำรวจแห่งชาติ<strong>รวมแนวข้อสอบตำรวจครับทั้งสายอำนวยการ สายธุรการ และ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ</strong> <br />
เห็นว่ามีประโยชน์เลยมาฝากกัน<br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/12653265/.doc.html" rel="nofollow" target="_blank"><span style="color: #688f96;">แนวข้อสอบตำรวจ-ธุรการ</span></a><br />
<br />
<span style="color: #688f96;"><a href="http://www.ziddu.com/download/12890664/100.doc.html">แนวข้อสอบตำรวจ อก</a> </span><br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/12757885/testplice.rar.html" rel="nofollow" target="_blank"><span style="color: #688f96;">แนวข้อสอบ พรบตำรวจแห่งชาติ</span></a><br />
<br />
<a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390221&key=4b7cf2e93c21e">พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และ กฏ ก.ตร</a> <br />
<br />
<a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390215&key=4b7cf2e93c21e">แนวข้อสอบตำรวจรวมฮิต 1</a><br />
<br />
<a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390216&key=4b7cf2e93c21e">แนวข้อสอบตำรวจรวมฮิต 2</a><br />
<br />
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (25 ข้อ).zip <a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390216&key=4b7cf2e93c21e">ดาวน์โหลด</a><br />
<br />
แนวข้อสอบภาษาไทย <a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390220&key=4b7cf2e93c21e">ดาวน์โหลด</a><br />
<br />
พรก.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี <a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390222&key=4b7cf2e93c21e">ดาวน์โหลด</a><br />
<br />
แนวข้อสอบ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ <a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390223&key=4b7cf2e93c21e">ดาวน์โหลด</a><br />
<br />
<a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390224&key=4b7cf2e93c21e">ข้อสอบอนุกรม</a>Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-20992146772721540992011-02-17T02:16:00.000-08:002011-02-17T22:48:19.935-08:00แนวข้อสอบความรู้ความสามารถทั่วไป<span style="color: blue; font-size: large;">มีแนวข้อสอบความรู้ความสามารถทั่วไปมาฝาก ดาวน์โหลดได้เลยตามลิงค์ครับ</span><br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/10144984/wisdom1.rar.html">แนวข้อสอบความรู้ความสามารถทั่วไปตอนที่ 1</a><br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/10858713/2.pdf.html">แนวข้อสอบความรู้ความสามารถทั่วไปตอนที่ 2</a><br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/11951223/180.doc.html">แนวข้อสอบภาค ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น</a><br />
<br />
<a href="http://www.ziddu.com/download/11979255/KorPor.rar.html">อ้นนี้แนวข้อสอบภาก ก กพครับ</a><br />
<br />
ข้อสอบอนุกรม <a href="http://www.tempf.com/getfile.php?id=390224&key=4b7cf2e93c21e">ดาวน์โหลด</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8778054685906703845.post-1103518501279521302011-02-10T08:03:00.000-08:002011-02-10T08:03:07.891-08:00แจกแนวข้อสอบ ภาค ก. กพ.500 ข้อแนวข้อสอบภาค ก กพ 500 ข้อ<br />
เพื่อนๆขอกันเยอะเหลือเกิน ส่งให้ไม่ไหวเลย<br />
โหลด เอาแล้วกันน่ะ<br />
แนวข้อสอบมี 6 ชุด<br />
<br />
<br />
1.<a href="http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA65LV231CJ6DFCCOII13GTY" target="_blank"><span style="color: #339900;">http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA65LV231CJ6DFCCOII13GTY</span></a><br />
2.<a href="http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA656AX4O74QQNP7BTVMBW1G" target="_blank"><span style="color: #339900;">http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA656AX4O74QQNP7BTVMBW1G</span></a><br />
3.<a href="http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA65QE1JX3T4YWMRODZKTBNJ" target="_blank"><span style="color: #339900;">http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA65QE1JX3T4YWMRODZKTBNJ</span></a><br />
4.<a href="http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA6588PSDGZ1QUVK9QALMD2Y" target="_blank"><span style="color: #339900;">http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAA6588PSDGZ1QUVK9QALMD2Y </span></a><br />
5.<a href="http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAD19ZYTA21KBCAHZ4QLM1EN9" target="_blank"><span style="color: #339900;">http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAD19ZYTA21KBCAHZ4QLM1EN9</span></a><br />
6.<a href="http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAD19OSOLAD27A[KMVTTFFCNH " target="_blank"><span style="color: #339900;">http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3807FBAD19OSOLAD27A[KMVTTFFCNH </span></a><br />
<br />
รวมแนวข้อสอบ ภาค ก กพUnknownnoreply@blogger.com0